"หวยซอง เลขเด็ด เขียนโดยสาธารณชน เป็นการเสนอแนะเพื่อเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการขายหวยทุกชนิด และ ไม่มีใครทราบว่าหวยจะออกตัวไหน โปรดใช้วิจารณญาณ"

เรื่อง: วิธีการถวายสังฆทานให้ถูกวิธีและมีประโยชน์
 
 8354

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สมาชิกระดับอาจารย์ C5 *
  • พลังน้ำใจ: 4225
28 มิถุนายน 2015, 23:06:48น.


    “สังฆทาน” คือ ทานที่ตั้งใจถวายแก่สงฆ์หรือผู้แทนของสงฆ์ ไม่จำเพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง หากถวายโดยเจาะจง เรียกว่า ‘บุคลิกทาน’ ดังนั้นสังฆทานมีอานิสงส์มาก
กว่าบุคลิกทาน เพราะผู้ถวายมีจิตใจที่กว้างขวาง ไม่เจาะจงว่าจะเป็นภิกษุรูปใด เป็นการแสดงถึงความตั้งใจจะถวายด้วยศรัทธาอันเป็นสาธารณะ




เดี๋ยวนี้เวลาพูดถึง “สังฆทาน” พวกเราจะนึกถึงถังสีเหลืองๆ ภายในบรรจุข้าวของเครื่องใช้เยอะแยะมากมาย จนล้นออกมาปากถัง แล้วมีพลาสติกใสหุ้มทับอีกที แท้จริง
แล้วของที่จะถวายหมู่พระสงฆ์โดยไม่เจาะจงที่เรียกว่า สังฆทาน นั้น คืออะไรก็ได้ที่เหมาะกับชีวิตสมณะ ไม่จำเป็นต้องเป็นถังเหลืองๆ ที่วางขายตามหน้าร้านสังฆภัณฑ์เสมอไป
          ข้าวของเครื่องใช้ที่บรรจุมักเป็นของที่พระภิกษุเก็บไว้ใช้ในช่วงวันเข้าพรรษา (ประมาณ 3 เดือน) ส่วนมากก็จะเป็นของที่ใช้ดำรงชีวิตทั่วไปเหมือนเราๆ ท่านๆ นี่แหละ
เช่น ผงซักฟอก, ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, สบู่, ยาสระผม เป็นต้น จะมีเพิ่มมาหน่อยก็จะเป็นผ้าอาบน้ำฝน สบงจีวรเครื่องนุ่งห่ม ที่พระภิกษุจะต้องมีไว้ใช้ ถ้าเราไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรไป
ถวายพระสงฆ์ดี เพราะฉะนั้นจึงต้องอาศัยเครื่องสังฆทานที่มีจำหน่ายตามร้านบรรจุให้สำเร็จรูป อีกทั้งการบรรจุกระป๋องก็ทำมาให้เรียบร้อยสวยงาม ซื้อปุ๊บก็ถือไปถวายปั๊บ เข้ากับ
ยุคสมัยพอดี ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อหามาประกอบให้ลำบาก
          ถึงเวลาที่ต้องมาทบทวนการทำสังฆทานกันเสียที สังฆทานที่ดีไม่จำเป็นต้องมีของถวายมากมาย ขอเพียงเป็นของที่จำเป็นและมีคุณภาพดีเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และการ
เลือกซื้อของมาประกอบเป็นสังฆทานเอง จะได้ของดีมีคุณภาพกว่าการไปซื้อ “ถังเหลืองๆ” ตามร้านสังฆภัณฑ์ทั่วไป “ถังเหลืองๆ” ที่มีวางขายตามร้านสังฆภัณฑ์นั้น บางร้านจะ
ยัดหนังสือพิมพ์หรือกระดาษแข็งเข้าไว้เต็มกระป๋อง ส่วนที่เป็นสังฆทานหรือข้าวของเครื่องใช้จริงๆ จะถูกบรรจุไว้แถวขอบปากถัง เพื่อให้ดูว่ามีของใช้มากมายจนล้นปากถัง แล้ว
เอาพลาสติกใสหุ้มอีกทีเพื่อไม่ให้ของล้นจนหก แท้จริงแล้วมีของใช้ไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง





ข้าวของเครื่องใช้ที่ซื้อหามาจัดเป็นสังฆทานได้
          1. เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ เนื่องจากพระสมัยนี้ต้องเรียนพระปริยัติธรรม
          2. มีดโกน สำหรับการโกนหนวด อาจจะซื้อมีดโกนหนวดเหมือนที่ฆราวาสใช้ต่างหาก เพราะใบมีดปลงผม (โกนศีรษะ) ถ้าเก็บไว้เฉพาะปลงผมครั้งต่อไปในวันโกนหน้าจะ
ได้ไม่ทื่อเร็วเกินไป และด้ามมีดปลงผมของบางรูปอาจไม่มีกระบังรองสำหรับโกนหนวด ทำให้บาดขณะโกนหนวดได้
          3. ผ้าไตรจีวร ที่มีความยาวพอที่จะนุ่งห่มได้ มีความหนาพอเหมาะสม เพราะผ้าที่ติดมากับถังเหลือง มันทั้งสั้น ทั้งบาง ทำให้พระท่านลำบากใจเวลาสวมใส่ ขาดความมั่นใจ
และเสียภาพลักษณ์ที่ดีของสงฆ์ ผู้ใดถวายผ้าไตรจีวร จึงได้อานิสงส์มากนัก
          4. ซีดีธรรมะ หนังสือธรรมะ หนังสือเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ หรือหนังสือความรู้ต่างๆ ที่คิดว่าพระสงฆ์ควรรับรู้เพื่อนำไปบอกกล่าวแก่ญาติโยมได้
          5. รองเท้า พระท่านต้องเดินบิณฑบาตร, ธุดงค์, ไปเรียนหนังสือ, ไปกิจนิมนต์ตามที่ต่างๆ, บางรูปต้องทำงานที่ใช้แรงงานในวัด เช่น ก่อสร้าง ทำสวน สิ่งที่ต้องรับภาระหนัก
ก็คือ 'รองเท้า' ที่มักจะขาด เสียหาย อยู่บ่อยๆ นั่นเอง รองเท้าจึงถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างสูง
          6. ยาสมุนไพรต่างๆ รวมทั้งยาแผนปัจจุบัน เช่น พาราเซตามอล ยาแก้ปวดท้อง ท้องเสีย ยาลดกรด ในกระเพาะอาหาร แอลกอฮอล์ล้างแผล เบตาดีนสำหรับใส่แผลสด ยา
บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และยาทาเมื่อถูกแมลงสัตว์กัดต่อย ฯลฯ
          7. ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สีเหลือง เหลืองหม่น สีกรัก (อาจพิจารณาตามสีจีวรที่ท่านครอง)เพราะผ้าขนหนูที่ติดมากับถังเหลืองมักหยาบ เล็ก และคุณภาพต่ำ จนเอามาใช้
ไม่ได้ในชีวิตจริง
          8. จาน ชาม ช้อน ส้อม อาจสอบถามดูว่าวัดนั้นๆ ต้องการจำนวนมากหรือไม่ จะได้จัดเป็นชุดใหญ่ถวายเป็นของสงฆ์ เพื่อให้ชาวบ้านหยิบยืมได้ด้วยในงานบุญประเพณี
ต่างๆ รวมทั้งเครื่องมืองานช่าง เช่น ค้อน ตะปู ไขควง หรืองานเกษตร เช่น จอบ เสียม พลั่ว และอุปกรณ์งานทำความสะอาด เช่น ไม้กวาดอ่อน ไม้กวาดแข็ง ถังขยะ ที่ตักผง ฯลฯ
          9. เครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมชง จำพวกขิงผง ชารางจืด มะตูม, นม UHT, น้ำผัก-น้ำผลไม้ 100 % , เครื่องดื่มผสมธัญพืช หรือจะเป็นเครื่องดื่มรสช็อกโกแลต ไมโลหรือ
โอวัลตินพร้อมดื่มก็ได้ ที่สำคัญอย่าลืมดูวันหมดอายุก่อนซื้อด้วย
          10. สบู่ จัดเป็นเครื่องประทินผิว แต่พระก็ใช้ได้เพื่อทำความสะอาดและระงับกลิ่นกาย ยาสีฟัน ชนิดผงหรือแบบหลอดก็ได้ ยาสีฟันสมุนไพรก็น่าสนใจ แปรงสีฟัน เลือกที่เป็น
ชนิดขนแปรงอ่อนๆ จะได้สบายเหงือก ยาสระผม เอาไว้ใช้เวลาโกนศีรษะจะได้โกนได้ง่ายขึ้น ผงซักฟอก ใช้ซักจีวรเพื่อความสะอาด น้ำยาล้างห้องน้ำ ใช้ทำความสะอาดสุขาของ
วัด น้ำยาเช็ดพื้น เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนแรงในการทำความสะอาด สลายคราบแล้ว บางยี่ห้อยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในมูลนกพิราบ ฉี่หมา ฉี่แมว ฉี่หนู เห็บ หมัด ของหมาวัด
ได้อีกด้วย สารส้ม สำหรับดับกลิ่นตัว ถ้าดีกว่านั้น ควรหาสารส้มที่มีการทำให้มนพร้อมใช้ (กับรักแร้) และสเปรย์ดับกลิ่นตัวอาจมีกลิ่นที่ไม่เหมาะ (ยกเว้นชนิดไม่มีกลิ่น)






ข้าวของบางอย่างที่ไม่ควรถวาย
          - บุหรี่ กาแฟ สิ่งเสพติด เครื่องดื่มชูกำลังทุกประเภท
          - ผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุด้วยโฟม เพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
          - อาหารกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง เพราะเป็นอาหารที่มีสารกันบูด สารเคมี ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ใส่เป็นผลไม้สดจะดีกว่า ถ้าในวัดมีครัวอาจซื้อผักสดเข้าครัวก็ได้
          - ใบชาคุณภาพต่ำ พระไม่ค่อยได้ชงฉัน ควรเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ให้ประโยชน์กับสุขภาพมากกว่า
          - กล่องสบู่ ปกติพระท่านมีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องซื้อถวายอีก
          - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารบิณฑบาตในตอนเช้าเป็นอาหารสด และมีคุณค่ากว่า ไม่ควรส่งเสริมให้ท่านฉันอาหารที่มีคุณค่าน้อย
          - น้ำอัดลมหรือน้ำที่ผ่านการปรุงแต่งกลิ่นและสี เช่น น้ำส้ม น้ำองุ่นที่แต่งกลิ่นและสี
          การถวายสังฆทานที่เกิดประโยชน์ควรหาซื้อของที่มีคุณภาพและพระท่านจำเป็นต้องใช้ไปถวาย จึงจะได้บุญสมดังความตั้งใจของท่านมากขึ้น ถ้าคุณเห็นพระขาดอะไร
ซื้อสิ่งนั้นถวาย เรียกว่า ทำบุญด้วยปัญญาไม่ใช่ทำบุญด้วยศรัทธา ทำบุญด้วยศรัทธา ได้บุญ ทำบุญด้วยปัญญา ได้บุญและปัญญา ได้ปัญญาธรรม มีสมองฉลาด ติดตัวตลอดไป
ที่สำคัญอีกอย่างคือทำบุญตามกำลังที่มีจะมากจะน้อยก็ได้บุญเหมือนกัน







คำกล่าวถวายสังฆทาน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ” (๓ จบ)
อิมานิ มยํ ภนฺเต ภตฺตานิ สปริวารานิ ภิกขุสงฺฆสฺส โอโณชยาม สาธุ โน ภนฺเต ภิกฺขุ สังโฆ
อิมานิ ภตฺตานิ สปริวารานิ ปฏิคฺคณฺหาตุ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ
กล่าวคำแปล
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหาร กับของที่เป็นบริวารทั้งหลายเหล่านี้
แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์ จงรับ ซึ่งภัตตาหาร กับของที่เป็นบริวารทั้งหลายเหล่านี้
เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ




โดย...พระอัครเดช  ญาณเตโช
วัดฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
อีเมล์ : [email protected]
(เนื้อหาและภาพประกอบเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน)



 K:[ K:[ K:[


  • พลังน้ำใจ: 19932
ตอบกลับ #1 28 มิถุนายน 2015, 23:11:25น.
 s#y ty: ty:

สมาชิกระดับอาจารย์ C5 *
  • พลังน้ำใจ: 4225
ตอบกลับ #2 28 มิถุนายน 2015, 23:22:08น.
อยากสำเร็จในชีวิต ต้องหมั่นแผ่เมตตา


เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลกทำให้โลกสงบสุขและรักกัน กรรมฐานกองหนึ่งใน 40 กองที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้คือ พรหมวิหาร4 คือ การมีความเมตตา กรุณา มิทิตา และอุเบกขา




แม้แต่สัตว์ที่ดุร้ายเราให้อาหารมันและพูดจาดีๆก็เปลี่ยนสัตว์เหล่านั้นให้เชื่องได้ บ้านไหนคนเกลียดกันก็เจริญเมตตา บ้านไหนมีศัตรูก็เจริญเมตตาแผ่เมตตาให้ไม่มีที่สิ้นสุดที่ประมาณยิ่งดี
เพราะการมีเมตตานอกจากทำให้ใจเย็นแล้ว หน้าตาสดใส มีคนรักใคร่ ไม่มีคนเกลียด สิ่งไม่ดีไม่เข้าหา ยังเกิดสง่าราศีที่งดงาม เป็นที่รักของเจ้าที่เจ้าบ้าน เจ้าป่าเจ้าเขา ผีบ้านผีเรือน และข้อสำคัญวิบากกรรมลดลงแน่นอน
ดังคำกล่าวว่า คนที่โกรธ คือ คนที่ปัดเอาสิ่งดีๆออกจากตัวเอง ในทางตรงกันข้าม คนที่ไม่โกรธแต่รักและเห็นใจคนอื่นก็ย่อมดึงดูดสิ่งที่ดีเข้าหาตัวเองได้ด้วยเช่นกัน

เมตตา มีรากศัพท์เดียวกันกับคำว่า "เมตตา / เมตไตย / มิตร" ที่แปลว่า เพื่อน  เป็นการแสดงความเป็นเพื่อนออกจากจิตใจ  ที่เห็นว่าตัวเราเองไม่อยากได้รับความทุกข์อะไรเลย คนอื่น ๆ ก็เป็นแบบนั้น  และเมื่อรักตัวเองได้ก็ส่งความรู้สึกแบบเดียวกันนั้นเองกระจายไปสู่คนรอบข้าง โดยเริ่มแรก อาจจะเป็นเพื่อน เป็นพ่อ เป็นแม่ และขยายออกไปเรื่อย ๆ  จนในที่สุดแล้ว  จิตใจจะไม่มีขอบเขตของความไม่รักใครอยู่เลย พรหมวิหาร 4 ก็เกิดได้อย่างง่าย

พรหมวิหารทั้ง4  คือ ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ เป็นหลักธรรมประจำใจสำหรับทุกคน ที่ช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ นั้น สามารถนำมาใช้เพื่อเสริมกำลังทางจิตให้เข้มแข็งขึ้น และรับอานิสงส์ที่มากขึ้น 

อานิสงค์จากการแผ่เมตตา
·        หลับเป็นสุข
·        ตื่นเป็นสุข
·        ไม่ฝันร้าย
·        เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย
·        เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
·        เทวดารักษา
·        ไฟ ยาพิษ ของมีคม ไม่กล้ำกรายได้
·        จิตตั้งมั่นโดยรวดเร็ว
·        สีหน้าผ่องใส
·        เป็นผู้ไม่หลงกระทำความตาย
·        เมื่อไม่รู้แจ้งแทงตลอดคุณอันยิ่งใหญ่ เป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก






แผ่เมตตา ทำอย่างไร
ครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านในเมืองไทย ท่านสอนว่า ความจริงแล้วการท่องบทแผ่เมตตานี้ เป็นการเกริ่นนำให้ใจเรามุ่งไปที่ข้อความเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว เราจะเลือกบทใดบทหนึ่งแผ่กับใครก็ได้ แต่ควรเป็นกับคนที่เรารักและเคารพก่อน ควรแผ่ให้กับคนที่รัก เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท หรือหากรักชาติ ก็แผ่ให้กับคนในชาติก็ได้
คาถาแผ่เมตตาตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ
อะหัง นิททุกโข โหมิ
อะหัง อะเวโร โหมิ
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
 
คาถาแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่  มีบทการแผ่เมตตาทั้ง 4 บท ดังนี้
บทเมตตา
สัพเพ สัตตา                    สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ                   จงเป็นผู้ไม่มีเวรแก่กันและกันเถิด
อัพยาปัชฌา โหนตุ            จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีฆา โหนตุ                    จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กาย ทุกข์ใจเถิด
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ       จงเป็นผู้มีสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
บทกรุณา
สัพเพ สัตตา                     สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ        จงพ้นจากทุกข์เถิด
บทมุทิตา
สัพเพ สัตตา                                สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ           จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด
บทอุเบกขา
สัพเพ สัตตา                                  สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น
กัมมัสสะกา                                   เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะ ทายาทา                               เป็นผู้รับผลของกรรม
กัมมะ โยนิ                                    เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะ พันธุ                                   เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะ ปะฏิสะระณา                         เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ                       กระทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา                  ดีหรือชั่ว
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ                จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น 
 
คาถาอุทิศส่วนกุศลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อเวรา สุขะชีวิโน
ขอปวงสัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกัน เป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญะผะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต
ขอสัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญ อันข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนั้นเทอญ




แหล่งที่มา :   เรียบเรียงจากเว็บพลังจิต, พันทิพย์ ห้องศาสนา

 P|P P|P P|P

  • พลังน้ำใจ: 0
ตอบกลับ #3 19 มกราคม 2016, 18:20:15น.
จะมีใครสักกี่คนที่เข้าใจในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่ได้มาอ่านเรื่องราวเหล่านี้

  • พลังน้ำใจ: 0
ตอบกลับ #4 07 มิถุนายน 2018, 14:14:40น.
การถวายสังฆทานนี่ถือว่าเราสามารถนำเอาไปทำอะไรได้บ้าง

หวยซอง เลขเด็ด อภิโชควิเคราะห์เลขรวย หวยรัฐบาล : Apichoke.net

Re: วิธีการถวายสังฆทานให้ถูกวิธีและมีประโยชน์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 07 มิถุนายน 2018, 14:14:40น. »

 

เว็บไซต์ในเครือข่ายอภิโชค : apichokeonlin.com | apichoke.net | apichoke.biz | apichoke.me | apichoke.org | apichoke.info
"ศาสตร์ของการคำนวณหวย สถิติหวยความน่าจะเป็น บนเว็บนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน-นักคำนวณ และบุคคลทั่วไปตลอดจนเลขจากไสยศาสตร์ต่างๆ การที่ใครจะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือถูกหวย รวยด้วยหวย ก็เป็นเพียงแต่ การเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรงมงาย หากต้องการเสี่ยงโชค ซื้อหวย เล่นหวย ก็ขอให้ เสี่ยงโชคแต่พอเพียงตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อเกินกำลังอาจทำให้เดือนร้อนได้"
คำเตือน : อย่าหลงเชื่อหากมีผู้อ้างตนเป็นอาจารย์ดังสามารถให้หวยถูก100%หรือให้ถูกทุกงวดแน่นอน หรืออวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กองสลาก แล้วเรียกเก็บเงินจากท่าน
ข้อมูลในเว็บนี้ใช้ประกอบเสี่ยงโชคสำหรับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่สนับสนุนหวยที่ผิดกฏหมาย